หน้าเว็บ

วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

Re:Monster : DAY : 72

DAY: 72

วันนี้ผมฝึกรอบเช้ากับ ออคก้าคิจิคุง ส่วน อัศวินเกราะสนิม (เกราะยังดีแต่สีของเกราะเป็นสีสนิม) อยู่ในแมทฝึกกับ Black Skeleton Knight ซึ่งก่อนหน้านี้เคยขอจับคู่ฝึกกับผม





พวกเราอยู่ในสังคมที่ลำดับชั้นทางสังคมว่า ออคหรือก๊อบบลินอยู่ในชั้นต่ำสุด เทียบเท่ากับพวกปศุสัตว์ และเผ่าพันธ์ส่วนใหญ่จะสูญเสียละทิ้งศักศรีไปโดยง่ายหากตกเป็นทาสสถานะทางสังคมจะเหลือเทียบชั้นปศุสัตว์ ถ้าพวกเขาไม่จิตใจแตกสลาย บ้างก็ทำร้ายตนเองหรือพยายามฆ่าตัวตาย แต่สำหรับมนุษย์บางคนไม่เป็นเช่นนั้น เขากำลังฝึกซ้อมรบไปอย่างเงียบๆ

ผมพูดได้ว่าแม้อัศวินเกราะสนิมตอนนี้จะอยู่ในฐานะทาสเขาก็ยังมีจิตวิญญาณที่เข้มแข็งเขาเดินเข้ามาหาผมด้วยสายตาอันมุ่งมั่น ด้วยความสูงของเขา เขาสามารถยืนจ้องตาผมได้ทัดเทียม ผมตัดสินใจตอบรับคำท้าทายนั้น

ในการต่อสู้กับอัศวินเกราะสนิมนั้น เทคนิคในการต่อสู้ที่ถูกขัดเกลามาอย่างดี ความแกร่งของเขามากกว่ามนุษย์ทุกคนที่ผมเคยประมือมา พลังในการต่อสู้ของเขาแสดงให้เห็นถึงหลักฐานของชัยชนะในการต่อสู้ของเขา แต่ความแกร่งของผมนั้นก็ยังเหนือห่างชั้นกับเขาอยู่มาก ในการประมือครั้งนี้ผมจะไม่ใช้สกิลที่เสริมร่างกายเพื่อให้ทะลุขีดจำกัดของ ออค(สายพันธ๊พิเศษ) เหมือนที่เคยใช้ตอนสู้กับนักพจญภัยใน Velvet Labyrinth มันเป็นเรื่องทีผมอยากจะลองทำมานานละ

ระหว่างการประลอง ผมลองใช้สกิลตรวจรายละเอียดของอัศวินเกราะสนิม

อาชีพ-วอริเออร์ - Level 100
อาชีพ-ไนท์ - Level 100
อาชีพ-Monk - Level 62
อาชีพ-เทมพล่า ไนท์ - level 25

ดังนั้นอัศวินเกราะสนิมจึงมีทักษะการต่อสู้ของสี่อาชีพ ดูเหมือนการฝึกฝนตลอดมาของเขาได้ให้ผลลัพท์ที่ดีทีเดียว

อัศวินเกราะสนิมนั้นแข็งแกร่งและรวดเร็ว ร่างกายของเขาบึกบันแต่คล่องแคล่ว ด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วดั่งฟ้าแลบเขาก็ยังสามารถอัดเข้าที่จุดอ่อนการป้องกันของผมได้อย่างแม่นยำ

ด้วยเทคนิคของเขาแต่ละการโจมตีจะทิ้งร่องรายของแสงสีขาวจางจางเอาใว้ ดูเหมือนมันจะเป็นกระบวนท่าจากอาชีพเฉพาะตัวของเผ่ามนุษย์ พวกเขาเรียกเทคนิคนี้ว่า [Combat Maneuver Arts] , อืม... มันใช้ได้ทีเดียว เขาได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเป็นคู่ต่อสู้ที่ยากต่อการต่อกร อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้แกร่งไปกว่า Lord of the Mountain (หมีแดงราชาภูเขา) ที่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของป่านี้

ผลการประลอง... ชัยชนะนั้นเป็นของผม แม้ว่าตอนแรกจะไม่สามารถคาดเดาผู้แพ้ได้ตั้งแต่เริ่มต้น ผมใช้ ศิลปะการต่อสู้ ของมนุษย์หลายอย่างที่ผมได้รับมาจากการรบกับกองทัพมนุษย์ก่อนหน้านี้เช่น ทักษะโจมตีที่จะมอบผลหลากหลายทางสถานะให้แก่คู่ต่อสู้ในการโจมตีครั้งเดียว และเทคนิคซัพพอทบางอัน ถึงแม้ผู้ชนะการต่อสู้คือคนที่ยืนอยู่จนนาทีสุดท้าย แต่สำหรับออคก้าคิจิ และ อัศวินเกราะสนิม ถือว่ามีทักษะที่ยอดเยี่ยมมากทีเดียว ยิ่งไม่ต้องห่วงเลยสำหรับคู่ซ้อมของเราเป็นผู้ใช้หอกเป็นอาวุธ

และในรอบนี้พวกเราจับคู่ซ้อมโดยจะใช้ทักษะเสริมพลัง ในการที่จะทำแบบนั้นการเตรียมพร้อมก็เป็นสิ่งจำเป็น

ผมใช้ [อาชีพ เอ็นช๊านเตอร์] เสริมพลังใส่เสื้อและกางเกงของอัศวินเกราะสนิม เสริม [ทำให้ร่างกายแข็งแรง] [เพิ่มความยืดหยุ่น] [เพิ่มพลังป้องกัน] บนเสื้อผ้าของเขา

อัศวินเกราะสนิมทำหน้าประหลาดใจเมื่อเขารูู้ว่าผมทำอะไร ถึงอย่างไรผมก็มีสกิลของ [อาชีพ-กาเดี้ยน] ที่เพิ่มพลังป้องกันอย่างมาก สกิล [เจ้าแห่งขุนเขา,สุดยอดกล้ามเนื้อ]

ยังไงในระดับการซ้อมผมก็ยังไม่สามารถใช้ทักษะทั้งหมดของผมได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเผลอฆ่า และไม่ทำให้คู่ซ้อมกลัวมากเกินไป เผื่อว่าในการซ้อมผมอาจจะปล่อยทักษะออกมามากเกินไป ผมจึงได้ใช้การเสริมพลังไปยังอัศวินเกราะสนิม

ผมจะอธิบายผลของการซ้อมระหว่างผมกับอัศวินเกราะสนิมให้ฟัง ในตอนนี้อัศวินเกราะสนิมมีสภาพรุ่งริ่งกองอยุ่บนพื้น ถึงจะนอนกองอยู่ที่พื้นเขาก็ยังแสดงความกล้าและความกระตือรือร้นที่จะสู้กับผมอยู่ ผมก็พอใจที่เขาเป็นแบบนั้นแต่สุดท้ายแล้วผมคิดว่าดีแล้วล่ะ เพราะเขาหมดสติไปด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า หลังจากนั้นผมก็ไปรักษา [Heal] ออคก้าคิจิ เขาพูดคุยบางอย่างกับผม ดูเหมือนว่าออคก้าคิจิอยากจะลองประมือกับอัศวินเกราะสนิมบ้าง

"หืม นายอยากจะลองประลองมือเปล่ากับอัศวินเกราะสนิมเหรอ ?"

ถ้าเป็น ออคก้าคิจิคุง กับ อัศวินเกราะสนิม สำหรับการต่อสู้ด้วยมือเปล่า ทั้งสองคนนี้จัดเป็นปริปักษ์กับผมได้เลยล่ะ

สำหรับออคก้าคิจิ เขามักมีชัยเหนือคู่ต่อสู้อย่างท่วมท้นมาตลอดจนกระทั่งมีคู่ต่อสู้เป็นอัศวินเกราะสนิม แต่ออคก้าคิจิคุง ก็ยังมีเครื่องประดับเมจิคไอเท็มที่ได้จากเวลเวทดันเจี้ยนอยู่ ก่อนที่การประลองจะเริ่มขึ้น มันเห็นชัดเจนมากเลยว่าทั้งคู่แลดูตื่นเต้นราวกับเป็นเด็กๆ

และเมื่อเป็นการต่อสู้ด้วยมือเปล่าดูเหมือนรอบนี้ออคก้าคิจิคุงก็อยากที่จะเอาชนะโดยไม่พึ่งพลังจากเมจิคไอเทม แต่เอาชนะด้วยร่างกายของเขาเพียวๆ

แต่ผมอยากจะชะลอการแข่งขันนี้ออกไปสักนิด เพื่อรอให้ร่างกายของอัศวินเกราะสนิมฟื้นฟูมาให้พร้อมเต็มที่เสียก่อน ถึงจะน่าเป็นคู่มือที่เหมาะสมหน่อย

หลังจากที่เขาฟื้นฟูหลังจากที่ถูกน๊อคเอาท์ไปขาดลอยจากที่สู้กับผม การต่อสู้กับออคก้าคิจิคุงก็เริ่มขึ้น มันเป็นการประลองที่ยอดเยี่ยมทั้งสองฝ่ายต่อสู้ได้สูสี การประลองดำเนินไปได้สักพักก่อนที่คนสุดท้ายที่ยืนอยู่คือ ออคก้าคิจิคุง เป็นชัยชนะมี่เฉือนกันไปเพียงนิดเดียว

ดูเหมือนว่าแม้เป็นออคก้าคิจิผู้เร้าร้อนดูเหมือนอัศวินเกราะสนิมก็สามารถปรับตัวเข้าด้วยกันได้ดี ระหว่างมื้อเที่ยง ผมลองฟังเรื่องราวของอัศวินเกราะสนิมพร้อมกับดื่มสมบัติส่วนตัวเอลฟ์ไวน์ร่วมกัน

จากเรื่องราวที่อัศวินเกราะสนิมว่ามา เขาต้องการที่จะสละตำแหน่งและความภักดีต่อจักรวรรดิ
"เพราะว่าผมต้องการจะเข้าร่วมกับฝั่งของคุณ"

เรื่องราวในชิวิตของอัศวินเกราะสนิม ดูเหมือนว่าเขาจะเกิดและโตขึ้นในสถานที่ที่มีความหลากหลายของเผ่าพันธ์ที่ชื่อว่า โทก้า มันไม่เหมือนที่ใดใดในอาณาจักรหรือจักรวรรดิ เพราะว่าเป็นสถานที่ที่มีเผ่าพันธ์อื่นๆจำนวนมากอาศัยอยู่ ซึ่งโดยปรกติมนุษย์จะไม่ชอบเผ่านพันธ์อื่นๆและผมก็ไม่รู้สาเหตุอะไรที่ทำให้เขาอยากมาเป็นพรรคพวก มันเหมือนอะไรที่เราไม่สามารถพูดได้อย่างเปิดเผย บางทีมันอาจจะเป็นเพราะการที่เขาเติบโตมาด้วยการต่อสู้ด้วยกำปั้นในแต่ละวัน ทำให้เขายอมสยบให้กับคนที่แข็งแกร่งกว่าแบบผม มันเป็นความคิดทั่วไปที่ผมพอคิดออก

ในตอนนี้อัศวินเกราะสนิมจึงไม่มีทั้งผู้ครอบครองและเจ้านายที่ต้องมอบความภักดีในฐานะอัศวิน หรือเขาอาจเกลียดใครบางคนในจักรวรรดิที่เขาจากมา ตราบใดที่เรื่องเป็นแบบนี้ มันก็โอเคนะ

หลังจากที่บรรพบุรษ(เจ้านายเก่า)ของเขาตายไป ก็เหลือเหตุผลเดียวที่เขายังเป็นอัศวินอยู่คือเหล่าลูกน้องอัศวินที่ติดตามเขาอยู่ผู้ซึ่งกินอาหารในหม้อเดียวกันสละเลือดปกป้องกันและกันร่วมกันมา เจ้านายคนปัจจุบันของเขาดูเหมือนจะเป็นเป็นชนชั้นสูงที่ถูกนำตัวมาวางใว้เป็นหัวหน้ากองทหารในปัจจุบัน นั่นทำให้สมาชิกที่เคยมีความผูกพันกันมาถูกสลับเปลี่ยนเป็นเหล่าชนชั้นสูงแทน จนกระทั่งเหลือเพียงอัศวินเกราะสนิมที่ปัจจุบันทำหน้าที่เป็นรองหัวหน้าเป็นคนสุดท้ายที่เป็นสมาชิกของกองกำลังดั้งเดิม เขายังคงทำหน้าที่โดยมีจุดมั่งหวังเพื่อการฝึกฝนสมาชิกใหม่ เพราะเขายืนอยู่ในตำแหน่งที่เป็นอาจารย์ผู้สอนผลลัพท์ที่ได้คือกองกำลังที่กำยำอึดทรหดอดทน

อนึ่ง, หัวหน้าที่เป็นชนชั้นสูงก็ได้ตายไปแล้วจากการเหตุการโดนหินถล่มทับ มานึกดูแล้ว หนีหินที่ถล่มลงมาทับไม่ทันนั้นเป็นกรณีสำหรับคนที่สวมใส่เกราะหรูหราใหญ่โตขนาดนั้นหล่ะนะ....

กลับมายังปัจจุบัน..

อัศวินเกราะสนิมค่อนข้างไม่พอใจในสถานการปัจจุบันในกองทหาร เพราะว่าชนชั้นสูงส่วนใหญ่ที่มาเป็นอัศวินในกลุ่มได้ตำแหน่งมาเพราะเป็นตำแหน่งตามปรกติของระดับชั้น ไม่ได้ไต่เต้ามาจากคนธรรมดา จึงไม่มีใครสักคนที่เข้าใจเขาและวิธีที่เขาคิด ทำให้เกิดความแตกแยกถกเถียงกันในกลุ่มบ่อยมาก จนกระทั่งเขาได้มาเจอพวกเรา เขาจึงได้คิดใคร่ครวญและละทิ้งภาระการเป็นอัศวินให้เหล่าชนชั้นสูงพวกนั้นซะ

บางทีเขาอาจจะคิดว่ามันเป็นโชคชะตาที่เราพบกัน และแน่นอนว่าเพราะเขายอมรับในพลังของเรา

ช่างเป็นชายที่ซื่อตรงอย่างมาก

เพราะว่าเขาสวมใส่แหวนทาสอยู่ที่จะทำให้เกิดอาการกระอักกระอวนนั่นทำให้เขาไม่สามารถโกหกได้ ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยในคำพูดของเขา อัศวินเกราะสนิมนั้นค่อนข้างมีประโยชน์อย่างมาก และผมตัดสินใจที่จะยอมรับเขาเข้าสู่กองกำลังของเรา เขาได้พิสูจน์แล้วว่าแข็งแกร่งและมีประโยชน์มากกว่าเอลฟ์สะอีก

ดังนั้น ผมปลดปลอกคอทาสออกจากเขา แล้วแนบเครื่องมืออีกประเภทใส่ใว้ที่หูของเขาแทน (cuff) ชุดเกราะและหอกของเขาจะถูกคืนให้หลังจากติดตั้งอุปกรณ์นี้เสร็จ

เอาล่ะ ตอนนี้รูปลักษณ์ของเขาก็กลับมาเป็นอัศวินเกราะสนิมเหมือนเดิมแล้วล่ะ

ผมคาดหวังกับเขาอย่างมากในวันข้างหน้า

ในตอนนี้เขาทำงานภายใต้การบังคับบัญชาของผมโดยตรง รายงานตรงต่อผมคนเดียวเท่านั้น

ในช่วงบ่ายของวันนั้น ผมตัดสินใจออกไปล่าตามประติและหาทำเลเหมาะสำหรับซุ่มโจมตีในอนาคต อัศวินเกราะสนิม กับ ผมแดง ก็ออกมากับผมด้วย ผมถาม ผมแดง ว่าเธอมีสกิลศิลปะการรบเท่าไหร่ [Combat Maneuver Arts] เธอตอบว่ามีอยู่หกอย่าง

[Slash] พลังในการผ่าศัตรูด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ( โรวมี [heavy slash] เจ๊งกว่าสินะ )
[Shield Bash] ยับยั้งการเคลื่อนไหวของศัตรูโดยการโจมตีด้วยโล่
[Stab] ผลักดันพลังให้สูงที่สุดให้ทะลุทะลวงไปยังจุดจุดเดียว
[Realm Slash Rush] การฟันโจมตีต่อเนื่องที่เพิ่มพลังโจมตีด้วยการเคลื่อนไหววิ่งฝ่าไปอย่างเร็ว
[Maca Fall] การเพ่ิมพลังให้ร่างกายด้วยเวทมนต์ให้แข็งแกร่งเหมือน monster ในชั่วณะหนึ่ง
[Variable] ได้รับทักษะของ มอนเสตอร์ ที่ได้กินเข้าไปโดยไม่จำกัดระยะเวลา

ในนี้มี 4 ศิลปะการรบที่เป็นของอาชีพ วอริเออร์ ที่เป็นท่าโจมตีธรรมดา และ 2 ท่าที่มาจากอาชีพ [Noire Soldier] ดูเหมือนว่า ศิลปะการรบ บางอย่างจะสามารถใช้ได้เฉพาะอาชีพเจาะจง

ดูเหมือนว่าศิลปะการรบสำหรับนักผจญภัยที่เพิ่งจะเริ่มต้นเหมือนนกเพิ่งจะเริ่มผลัดขน จะมีจำนวนประมาณหกอย่าง ส่วนอัศวินเกราะสนิมนั้นมีถึงสิบเจ็ดอย่าง ศิลปะรบ สามารถได้รับหลังจากได้รับ อาชีพ [job]

มนุษย์สามารถใช้ศิลปะรบของมอนเสตอร์ได้อย่างอิสระ ผมคิดว่ามันคงเป็นข้อยกเว้น และหวังว่าคงไม่มีข้อยกเว้นหลายสิ่งเกินไปนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น